คลื่นแสง
สมบัติของแสงเชิงคลื่น(การแทรกสอดและเลี้ยวเบน)
การแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่
เนื่องจากช่องเกรตติ้งมีขนานเล็ก และอยู่ชิดกันมากจึงทำให้แสงที่ออกจากช่องของเกรตติ้งเป็นรังสีขนาน เมื่อแสงดังกล่าวไปพบกัน จะเกิดการแทรกสอดกันเหมือนช่องแคบคู่ และทุก ๆ คู่ จะให้เงื่อนไขการแทรกสอดเหมือนกันหมด เราจึงพิจารณาเงื่อนไขการแทรกสอดของเกรดติ้ง จากการแทรกสอดผ่านช่องแคบคู่เพียงคู่เดียว
ผลการแทรกสอดของแสงหลังแสงผ่านเกรตติ้ง มี 2 แบบ คือ
1. เมื่อให้แสงสีเดียวผ่านเกรตติ้ง จะเกิดการแทรกสอดเกิดแถบสว่างและแถบมืด เหมือนกับแสงผ่านสลิตคู่ การคำนวณเหมือนแทรกสอดผ่านสลิตคู่ จากรูปเป็นการฉายแสงเลเซอร์ผ่านเกรตติ้ง
ในกรณีที่ฉายแสงที่ไม่ช่แสงขาว แต่เป็นแสงที่เป็นแสงสีผสมเช่น ฉายแสงสีแดงม่วง ผ่านเกรตติ้ง จะเกิดการแทรกสอด เป็นชุดสเปกตรัมเพียง 2 สี คือ สีม่วง และสีแดง แถบกลางเป็นแถบสว่างสีแดง ม่วง เหมือนกับแสงที่ฉายเข้ามา ดังรูป
สมการและการคำนวณเมื่อฉายแสงขาวผ่านเกรตติ้ง
1. เมื่อฉายแสงสีเดียวผ่านเกรตติ้ง
โธมัส ยัง (Thomas Young)
ได้ทำการทดลองปรากฏการณ์แทรกสอดของแสง โดยใช้อุปกรณ์ดังแสดงในรูป
เมื่อให้แสงสีเดียวผ่านช่องแคบ S0 แล้วเลี้ยวเบนตกลงบนช่องแคบ S1 และ S2 ช่องแคบ S1 และ S2
จะทำหน้าที่เสมือนแหล่งกำเนิดคลื่นอาพันธ์ ในการทดลองใช้แผ่นสลิตคู่ ( Double slits
) เมื่อคลื่นแสงทั้งสองเดินทางไปพบกันจะทำให้เกิดการแทรกสอดกัน
ในลักษณะทั้งเสริมทั้งหักล้างกันบนฉาก ทำให้ปรากฏเป็นแถบมืดและแถบสว่างปรากฏบนฉาก
แถบสว่างถึงแถบสว่างที่อยู่ติดกัน
หรือมืดถึงมืดที่อยู่ติดกัน ในการแทรกสอดของแสง จะมีระยะห่างกันคงที่
เราหาระยะห่างแบบนี้ได้จาก
การเลี้ยวเบนของแสงผ่านสลิตเดี่ยว
การเลี้ยวเบนของแสงเกิดขึ้นได้
เมื่อแสงจากแหล่งกำเนิดแสงอาพันธ์เดินทางผ่านช่องแคบที่มีขนาดเล็กใกล้เคียงกับความยาวคลื่นแสง
ทุกๆจุดบน
ช่องเดี่ยว(single slit) จะทำหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดแสงใหม่ ตามหลักของฮอยเกน
แสงจากแหล่งกำเนิดแสงใหม่จะเกิดการซ้อนทับกันบนฉาก
ทำให้เราเห็นเป็นแถบมืดและแถบสว่าง
ระยะของแถบสว่างตรงกลางจะมีความกว้างมากที่สุด
มีความสว่างมากที่สุด(เขียนรูปเปรียบเทียบจะมีค่าความเข้มแสงมากที่สุด)
จากรูปด้านล่างจะเห็นว่าจากกึ่งกลางแถบสว่างตรงกลางไปยังแถบมืดแรกถ้ากำหนดให้ห่าง X
เมื่อวัดจากสว่างกลางไปยังแถบสว่างแรกถัดจากกลาง จะมีระยะห่าง 1.5X
ดังนั้นเมื่อวัดความกว้างของแถบสว่างกลางที่กว้างที่สุด(จากมืด N1 ไปถึง N1 ทั้ง 2
ข้าง) จะมีระยะเท่ากับ 2X
การคำนวณการเลี้ยวเบนของแสงผ่านสลิตเดี่ยว
รูปเปรียบเทียบภาพบนฉาก
จากแสงผ่านสลิตคู่ และสลิตเดี่ยว
เกรตติ้ง
เกรตติ้ง คือ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบสเปคตรัมของแสงโดยอาศัย คุณสมบัติการแทรกสอดของคลื่น
ลักษณะของเกรตติ้ง จะเป็นแผ่นวัสดุบางที่ถูกแบ่งออกเป็นช่องขนานซึ่งอยู่ชิดกันมาก
โดยทั่วไปใน 1 เซนติเมตร แบ่งออกเป็น 4,000 - 10,000 ช่อง ในการทดลอง
ถ้าเราให้แสงจากดวงอาทิตย์หรือแสงขาวจากหลอดไฟส่องผ่านเกรตติ้ง
เราจะเห็นสเปรคตรัมของแสงอาทิตยหรือแสงขาว แยกออกเป็น 7 สี
รูปแสดงการฉายแสงขาวผ่านเกรตติ้ง
แล้เกิดการแทรกสอดบนฉากเป็นชุดสเปกตรัม
เนื่องจากช่องเกรตติ้งมีขนานเล็ก และอยู่ชิดกันมากจึงทำให้แสงที่ออกจากช่องของเกรตติ้งเป็นรังสีขนาน เมื่อแสงดังกล่าวไปพบกัน จะเกิดการแทรกสอดกันเหมือนช่องแคบคู่ และทุก ๆ คู่ จะให้เงื่อนไขการแทรกสอดเหมือนกันหมด เราจึงพิจารณาเงื่อนไขการแทรกสอดของเกรดติ้ง จากการแทรกสอดผ่านช่องแคบคู่เพียงคู่เดียว
รูปแสดงแสงผ่านเกรติ้งซึ่งเป็นช่องขนานจำนวนมาก
จะแทรกสอดเหมือนสลิตคู่
ผลการแทรกสอดของแสงหลังแสงผ่านเกรตติ้ง มี 2 แบบ คือ
1. เมื่อให้แสงสีเดียวผ่านเกรตติ้ง จะเกิดการแทรกสอดเกิดแถบสว่างและแถบมืด เหมือนกับแสงผ่านสลิตคู่ การคำนวณเหมือนแทรกสอดผ่านสลิตคู่ จากรูปเป็นการฉายแสงเลเซอร์ผ่านเกรตติ้ง
รูป การฉายแสงสีเดียวผ่านเกรตติ้ง
แล้วแทรกสอดบนฉาก
สมการคำนวณการแทรกสอด
2.
เมื่อให้แสงขาวผ่านเกรตติ้ง
จะเกิดการแทรกสอดเกิดแถบสว่าง(แสงขาวตรงกลาง) และเกิดชุดสเปกตรัม
โดยแต่ละชุดจะเริ่มจากแสงสีม่วงไปจนถึงแสงสีแดง ดังแสดงในรูป
รูปชุดสเปกตรัมบนฉาก
เมื่อฉายแสงขาวผ่านเกรตติ้ง
ในกรณีที่ฉายแสงที่ไม่ช่แสงขาว แต่เป็นแสงที่เป็นแสงสีผสมเช่น ฉายแสงสีแดงม่วง ผ่านเกรตติ้ง จะเกิดการแทรกสอด เป็นชุดสเปกตรัมเพียง 2 สี คือ สีม่วง และสีแดง แถบกลางเป็นแถบสว่างสีแดง ม่วง เหมือนกับแสงที่ฉายเข้ามา ดังรูป
รูป การแยกสเปกตรัมเป็นสีม่วงกับสีแดง ข้างละ 2
ชุด
ถ้าฉายแสงสีน้ำเงินเขียว ผ่านเกรตติ้ง
จะเกิดแถบแทรกสอดบนฉากเป็นอย่างไร
สมการและการคำนวณเมื่อฉายแสงขาวผ่านเกรตติ้ง
1. เมื่อฉายแสงสีเดียวผ่านเกรตติ้ง
2. เมื่อฉายแสงขาวผ่านเกรตติ้ง